บทความทั้งหมด
การอบรม Forklift ไม่ใช่แค่ขับได้ — แต่คือความปลอดภัยที่ควบคุมได้

การอบรม Forklift ไม่ใช่แค่ขับได้ — แต่คือความปลอดภัยที่ควบคุมได้

September 9, 2025

อุบัติเหตุรถ Forklift: ศัตรูตัวจริงคือ “ความเคยชิน”

อุบัติเหตุจากรถ Forklift ในโรงงานเกิดขึ้นบ่อยครั้งจาก “ความเคยชิน” มากกว่าความไม่รู้ การอบรมที่ดีจึงไม่ได้สอนแค่การควบคุมพวงมาลัย แต่คือการมองเห็นความเสี่ยงล่วงหน้าและตอบสนองให้เร็วและถูกต้อง

ในหลายโรงงาน คนขับและคนทำงานรอบๆ รถยกมัก “คุ้นมือ” กับเส้นทางเดิมๆ จนเผลอละเลยขั้นตอนเล็กๆ ที่สำคัญ เช่น การบีบแตรก่อนผ่านทางแยก การกวาดสายตา 360° หรือการลดความเร็วเมื่อมุมอับสายตา ผลลัพธ์คือความผิดพลาดเล็กน้อยสะสมจนกลายเป็นเหตุใหญ่

ทำไม “ความเคยชิน” จึงอันตราย

  • สมองลัดขั้นตอน เมื่อทำงานซ้ำ สมองจะข้ามเช็กลิสต์พื้นฐาน เช่น คาดเข็มขัด ตรวจสภาพรถ หรือจัดวางงาให้ต่ำขณะเคลื่อนที่
  • ประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าความเป็นจริง “เมื่อวานก็ทำแบบนี้” ทำให้มองข้ามตัวแปรใหม่ เช่น พื้นลื่น พาเลทเสียรูป หรือคนเดินข้ามเลน
  • แรงกดดันเรื่องเวลา รีบส่งของให้ทันรอบ ทำให้ตัดสินใจเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว เช่น เข้าโค้งเร็ว ยกของสูงขณะเคลื่อนที่

สถานการณ์เสี่ยงที่พบบ่อย

  1. มุมอับ/ทางแยกในคลัง ไม่มีผู้ชี้บอกทาง ไม่ชะลอก่อนพ้นมุม
  2. ยกของสูงระหว่างเคลื่อนที่ วิสัยทัศน์ถูกบัง สมดุลรถเสีย
  3. ทางลาด/พื้นต่างระดับ น้ำหนักเปลี่ยนทิศ เกิดอาการแฉลบหรือยกหน้ารถ
  4. ถอยหลังโดยไม่สื่อสาร ไม่มีสัญญาณเสียง/ไฟถอย ไม่มี spotter
  5. โซนปะปนคน–รถ ไม่มีเลนเดินเท้าชัดเจน เสี่ยงเฉี่ยวชน

หลักอบรมที่ได้ผล: ไม่ใช่แค่ “ขับได้” แต่ “เห็นก่อน–คิดไว–ทำถูก”

1) ฝึก “มอง–คิด–ตัดสินใจ–ทำ” ทุก 3–5 วินาที

  • มอง กวาดสายตา 360° เช็กพื้น ผนัง ชั้นวาง คนเดิน พาเลทตกค้าง
  • คิด คาดการณ์ “ถ้าคนนั้นก้าวออกมา/ถ้าแผงหลุด?”
  • ตัดสินใจ เลือกทางปลอดภัยที่สุด ลดความเร็ว หยุดให้ทาง
  • ทำ ปฏิบัติทันที ใช้เบรก แตร สัญญาณมือ สื่อสารกับทีม

2) เช็กรถก่อนงาน (Pre-Start) แบบสั้นแต่ครบ

  • งา/เสากระโดง/โซ่/ไฮดรอลิก: รั่ว ซึม โค้งงอ
  • ยาง/ล้อ: แตกลายงา แรงดันลมผิดปกติ
  • เบรก/แตร/ไฟเตือน/ไฟถอย: ทำงานปกติ
  • เข็มขัดนิรภัย/โครงป้องกัน: พร้อมใช้งาน
  • เอกสาร/ป้ายจำกัดน้ำหนักบรรทุก: อ่านชัด จัดวางถูก

3) กฎทองระหว่างเคลื่อนที่

  • งาต่ำ–เอียงเล็กน้อย ขณะวิ่ง ป้องกันการบังทัศนวิสัยและเสียสมดุล
  • ช้าเข้า–ช้าออก ทุกมุมแคบ/ทางแยก บีบแตรทุกครั้ง
  • แยกเลนคน–รถ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้ spotter และสัญญาณมือมาตรฐาน
  • ห้ามบรรทุกเกินพิกัด ปรับงาให้กว้างพอดี และกระจายน้ำหนัก

ออกแบบการอบรมให้ “ติดมือ” ไม่ใช่แค่ “ติดหัว”

  • Scenario-based จำลองเหตุการณ์จริงในคลังของเราเอง เช่น โค้งแคบ ทางลาด พื้นลื่น
  • Micro-drill 10 นาที/กะ ทบทวนสัญญาณมือ จุดแตร จุดชะลอ ตามแผนผังจริง
  • Near-miss culture รายงาน “เกือบพลาด” โดยไม่ลงโทษ ใช้เป็นบทเรียนทีม
  • Ride-along Coaching หัวหน้างานสังเกตสด ให้ฟีดแบ็กทันที
  • Refresh ทุก 6–12 เดือน สั้น กระชับ เน้นพฤติกรรมเสี่ยงที่พบล่าสุด

เช็กลิสต์ 1 หน้า สำหรับหัวหน้างาน

  • ทางเดินเท้าชัดเจน รั้วกั้น/ป้ายเตือนครบ
  • มุมอับติดกระจกโค้ง/ไฟเตือน/เส้นชะลอ
  • บันทึก Pre-Start ครบทุกคัน ทุกกะ
  • บรีฟความเสี่ยงประจำวัน (พื้นลื่น งานซ่อม พาเลทเสียรูป)
  • สุ่มตรวจพฤติกรรม: แตร–ชะลอ–กวาดตา–เว้นระยะ

สรุป: ลดอุบัติเหตุ Forklift ให้ยั่งยืน ต้องเปลี่ยนจาก “ขับเป็น” เป็น “เห็นก่อน–คิดไว–ทำถูก” ผ่านการอบรมที่พุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมจริงในพื้นที่จริง ออกแบบเส้นทางและกฎหน้างานให้บังคับพฤติกรรมปลอดภัยเสมอ แม้ในวันที่ทุกคน ‘คุ้น’ จนเผลอ

แชร์บทความนี้